วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

น้ำตกคำหอม จังหวัดสกลนคร


น้ำตกคำหอม (1ใน4 น้ำตกแห่งอุทยานฯภูพาน ฝั่ง จ.สกลนคร)

 
เมื่อวานวันแม่ไม่ได้ทำอย่างที่คิดไว้เลย (แห้วอีกแล้ว) เลยไม่ได้ไปแถว อ.ดอนจาน อย่างที่คิดไว้
ผมเลยขออนุญาตนำภาพทีเคยไปแวะพักที่น้ำตกคำหอม (บริเวณโค้งปิ้งงู)เมื่อเดือน สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา
มาลงเรียกน้ำย่อยสำหรับคนชอบเที่ยวน้ำตก (เผื่อสักวันมีการจุดทริปข้ามจังหวัดบ้าง)
ถ่ายด้วยกล้อง LG KE200 [1.3 MP] ก็พอแก้ขัดได้ ภาพอาจจะไม่คมเหมือน LG KE970 [2.0 MP] เพราะคนละระดับกัน
  
แต่ก็ถือว่าโอเคสำหรับกล้องมือถือที่วางขายตั้งแต่ปี 2550
สำหรับน้ำตกคำหอมนั้น จะมีต้นน้ำไหลมาจากถ้ำดงลิง ภูเขียว ถึงบริเวณที่เรียกว่าน้ำตกคำหอมเป็นระยะทางประมาณ 4 กม. (มีการเรียกชื่อน้ำตกต่างๆเป็นช่วงๆ ก่อนจะมาถึงจุดที่เรากำลังยืนอยู่)ซึ่งมีสายน้ำ 2 สายไหลมารวมกันบริเวณน้ำตกสามหลั่น ก่อนจะไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยเดียกต่อไป ซึ่งผมเคยเดินเข้าไปกับเพื่อน เมื่อปี 2547 แต่เพื่อนมันชวนออกมาก่อน (เด็กกรุงเทพไม่เคยเดินป่า---มันกลัวงู) ไปถึงแค่น้ำตกสามหลั่นเองครับ แต่ธรรมชาติของที่นี่สวยไม่แพ้ที่อื่น เหมือนได้เดินป่าริมสายน้ำเพื่อแสวงหาอะไรบางอย่าง (สกลนครดินแดนแห่งการแสวงหา) ใครอยากไปเดินป่าเพื่อตามหาน้ำตกเหวสินธ์ชัยกับผมบ้าง!!! (อยู่ไกลกว่าเพื่อนเลย)
 
1 ใน 4 น้ำตกแห่งอุทยานแห่งชาติภูพาน ฝั่ง จ.สกลนคร ที่ผมรู้จัก
       1. น้ำตกคำหอม (ประกอบด้วย คำหอม,สามหลั่น,สาวไห้ และเหวสินธ์ชัย) อ.เมือง
    2. น้ำตกปรีชาสุขสันต์ อ.เมือง
       3. น้ำตกห้วยใหญ่
       4. น้ำตกภูมะแงว
 

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

หาดคำสมบูรณ์ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

 “หาดคำสมบูรณ์

    

หาดคำสมบูรณ์” นี้อยู่ในพื้นที่ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ครับ 

    

ที่หาดคำสมบูรณ์นี้นับเป็นอีกที่ที่เหมาะกับการหลบอากาศร้อนๆ ในช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ ซึ่งหากชอบเล่นน้ำก็สามารถที่จะว่ายเล่นน้ำเฉยๆ ก็ได้ หรือหากชอบเล่นห่วงยางก็มีห่วงยางให้เช่า และยังมีบานานา โบ๊ทให้เล่นกับเพื่อนๆ ให้เต็มอิ่มกับการเล่นน้ำด้วย เห็นแต่กลุ่มอื่นเล่นน้ำกันสนุกสนานครับ แต่สำหรับเราทริปนี้ไม่ได้เล่นเพราะเดินทางกันมาไกลทั้งคืน จึงหมดแรงที่จะเล่นน้ำ ได้แต่เติมแรงจากอาหารแนวอีสานที่มีร้านค้าอยู่ตลอดแนวฝั่งหาดคำสมบูรณ์มากมา

   

น้ำตกธารทิพย์ จังหวัดหนองคาย


น้ำตกธารทิพย์


น้ำตกธารทิพย์ หนองคาย น้ำตกธารทิพย์ น่าตื่นตาตื่นใจ
น้ำตกธารทิพย์ หนองคาย : : วันนี้ออกเดินทางแต่เช้า จาก เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ด้วย พาหะนะ Toyota Prerunner สีน้ำเงิน มุ่งหน้าสู่จุดหมายคือ น้ำตกธารทิพย์ หนองคาย หนึ่งใน ที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยม อีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัด หนองคาย ไม่รู้ว่าวันนี้คน ที่มาเที่ยว ที่นี่จะเยอะ รึปล่าวนะ วันนี้อากาศ ดีมากๆ ขออย่าให้ หนองคาย ฝนตกลงเลย กลัวถนนลื่น ทำให้ขับรถยาก แทบจำไม่ได้ว่านานแค่ไหน ที่ไม่ได้ หาเวลามาเที่ยว แบบนี้ ตั้งใจไว้ว่า จะขับกินลม ไม่รีบอะไร ร้อนอะไร เกสเฮาส์ ที่พัก ก็ยังไม่ได้จองล่วงหน้าไว้เลย กะว่าค่อยไปหาเอาข้างหน้า เอาหละกัน ห้องพัก สำหรับ พักค้างคืน ใน หนองคาย ก็หวังว่าคงพอหาได้ไม่ยากนะ เพราะนานๆ จะได้มาคลายเครียด แบบนี้บ้าง

น้ำตกธารทอง จังหวัดหนองคาย

น้ำตกธารทอง
485165-topic-ix-1.jpg (491×534) 
               
 ตั้งอยู่ในเขตสวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง  บ้านผาตั้ง  หมู่ที่ 1  ตำบลผาตั้ง  อำเภอสังคม  จังหวัดหนองคาย 
เป็นน้ำตกจากผาสูง  30 เมตร มีระยะลดหลั่นกันสวยงามมาก  มีน้ำมากประมาณเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม ของทุกปี เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านใต้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211  เส้นทางหนองคาย – เลย  ห่างจากอำเภอสังคม ประมาณ 11 กิโลเมตร  ห่างจากจังหวัดหนองคาย  ประมาณ 84 กิโลเมตร 

น้ำตกถ้ำฝุ่น จังหวัดบึงกาฬ



น้ำตกถ้ำฝุ่น

   
น้ำตกถ้ำฝุ่น  ตั้งอยู่ในความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ในพื้นที่บ้านภูสวาท หมู่ 6 ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า  จังหวัดหนองคาย ห่างจากตัวอำเภอบุ่งคล้าระยะทาง 6 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดหนองคายระยะทาง 180 กิโลเมตร        
     น้ำตกถ้ำฝุ่นจะมีน้ำไหลจากหลังภูวัวตลอดปี แต่จะมีมากในฤดูฝน มีลักษณะเป็นหุบเขา มีถ้ำอยู่บริเวณน้ำตกหลายแห่ง  น้ำตกถ้ำฝุ่นเป็นน้ำตกสายเล็ก ๆ มีป่าไม้ธรรมชาติร่มรื่นตลอดเส้นทาง การเดินทางสะดวก มีถนนคอนกรีตไปจนถึงบริเวณน้ำตก มีร้านอาหารและสถานที่จอดรถ พร้อมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวคอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
การเดินทาง
น้ำตกถ้ำฝุ่น  อยู่ในบริเวณบ้านภูสวาท ตำบลหนองเดิ่น ตามทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ ก่อนถึงอำเภอบุ่งคล้า ๗ กิโลเมตรมีทางแยกขวาไปน้ำตก ๔ กิโลเมตร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ
ที่อยู่ :405 หมู่ 1 ถนนริมโขง ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ รหัสไปรษณีย์ : 38000
เบอร์โทร :0-4249-1432 E-mail : bg@bungkan-mots.org เว็บไซต์ : bungkan-mots.org
 

ภูทอก อำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย


 ภูอก
ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง ภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย แต่ก่อนบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย พระอาจารย์จวนกุลเชษโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ
การขึ้นภูทอกนั้นเริ่มก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้นไปในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม บันไดทั้ง 7 ชั้น แตกต่างกันดังนี้
  • ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดสู่ชั้นที่ 3 ซึ่งเริ่มเป็นสะพานเวียนรอบเขา สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหินลานหิน สุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทาง ทางซ้ายมือเป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลย ซึ่งเป็นทางชันมาก ผ่านหลืบหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4
  • ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกัน เรียกว่า "ดงชมพู" ทิศตะวันออกจดกับภูลังกา เขตอำเภอเซกา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบ มีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่าน มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ โดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มาก จึงเรียกกันว่า ภูรังกา แล้วเพี้ยนมาเป็นภูลังกาในที่สุด บนชั้นที่ 4 นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชี รอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะๆ
  •  

  • ชั้นที่ 5 หรือชั้นกลาง มีศาลากลางและกุฏิที่อาศัยของพระ และเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนไว้ด้วย ตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างอยู่ราว 20 แห่ง มีหน้าผาชื่อต่างๆ กัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต ฯลฯ ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พระวิหาร อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจน และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขามีความยาว 400 เมตร สุดทางที่ชั้น 7 อันเป็นป่าไม้ร่มครึ้มสวยงาม

  • การเดินทางสู่ภูทอก จากตัวเมืองหนองคาย ใช้เส้นทาง 212 ผ่านอำเภอโพธิ์ชัย อำเภอปากคาด และอำเภอบึงกาฬ แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 222 ถึงอำเภอศรีวิไล ระยะทางประมาณ 160 กม. จากหน้าที่ทำการอำเภอต้องเข้ารถเข้าไปอีกประมาณ 20 กม. ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ แยกเข้าตรงบ้านศรีวิไล สู่บ้านนาคำแคนและเข้าสู่ภูทอก

น้ำตกตาดขาม จังหวัดนครพนม



น้ำตกตาดขาม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกา มีพื้นที่ประมาณ 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัด นครพนมและอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย 
     น้ำตกตาดขาม เกิดจากลำธารหลายสายบนยอดเขาไหลมาบรรจบกันเป็นลำห้วยขาม เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก และบริเวณใกล้ๆ มีลานหินเล็กๆ สำหรับพักผ่อน มีน้ำตกไหลเป็นชั้นๆ จำนวน 4 ชั้น เฉพาะชั้นสุดท้ายจะมีแอ่งน้ำขังตลอดปี

     น้ำตกตาดขาม เป็นที่รู้จักของประชาชนจังหวัดใกล้เคียง เช่น หนองคาย สกลนคร อุดรธานี ฯลฯ มีประชาชนเดินทางมาเที่ยวชมทุกๆวัน วันละประมาณ 100 คน โดยเฉลี่ยและวันหยุดต่างๆ จะมีไม่น้อยกว่า 400 - 500 คน 

น้ำตกเจ็ดสี จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
....................ท่ามกลางธรรมชาติ.....................

น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
น้ำตกเจ็ดสี อ.เซกา จ.บึงกาฬ (เดิมเคยเป็นเขตพื้นที่ของ จ.หนองคาย)



      พวกเรานั่งรถผ่านถนนลาดยางซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อน้อยใหญ่และถนนลูกรังไม่เกิน 15 นาทีก็มาถึงลานจอดรถบริเวณน้ำตกเจ็ดสี
      จากลานจอดรถพวกเราต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรกว่าๆ จึงจะถึงตัวน้ำตก ทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางนั้นดูงดงามแปลกตาด้วยลานหินกว้างสีน้ำตาลแดงตัดสลับกับสีเขียวชอุ่มของแมกไม้น้อยใหญ่ มีดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ เบ่งบานชูช่ออวดสีสันสดใสขึ้นแซมอยู่เป็นระยะๆ พื้นที่บางแห่งมีร่องรอยการกัดกร่อนของกระแสน้ำ สายลม และแสงแดดจนมีลักษณะคล้ายกับบันไดหินเรียงซ้อนกันหลายๆ ชั้น เป็นความอัศจรรย์ซึ่งธรรมชาติได้รังสรรค์สร้างขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
ไม่เห็นสายรุ้งเจ็ดสีที่ตัวน้ำตก เนื่องจากทีมงานเดินทางมาถึงช้าเกินไป


      
หลังจากเดินชมนก ชมไม้ ลอยชาย สบายอารมณ์อยู่สักครู่เล็กๆ พวกเราก็เดินมาถึงชั้นน้ำตกเตี้ยๆ สูงแค่ประมาณ 3 – 5 เมตร แต่กว้างหลายสิบเมตร บริเวณด้านหน้าชั้นน้ำตกมีแอ่งขนาดใหญ่ที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน ตอนแรกพวกเรานึกว่าชั้นน้ำตกเตี้ยๆ นี้ คือ “น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม)” ครั้นพอพินิจพิจารณาดูดีๆ ก็พบว่าไม่น่าจะใช่ เนื่องจากพวกเรามองเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ (ซึ่งหน้าตาบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวท้องถิ่นในละแวกใกล้เคียง) เดินเลาะเลียบริมธารเลยลับหายไปทางฝั่งต้นน้ำ พวกเราจึงสันนิษฐานว่าน้ำตกเจ็ดสีน่าจะอยู่ลึกเข้าไปอีกเมื่อเทียบจากตำแหน่งปัจจุบัน แถมรูปถ่ายของน้ำตกเจ็ดสีจากหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวที่พี่ต้นหญ้าควักขึ้นมาจากกระเป๋าคู่ชีพเพื่อเปรียบเทียบกับชั้นน้ำตกซึ่งอยู่ตรงหน้าพวกเราก็หน้าตาไม่เหมือนกันซะด้วย (.......อืม.....ม....ม..ม......พี่ต้นหญ้าแกรอบคอบจริงๆ นะเนี่ย ขนาดเดินเข้ามาตามเส้นทางสู่ตัวน้ำตกเจ็ดสีแล้ว พี่แกก็ยังอุตส่าห์พกรูปถ่ายน้ำตกจากหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวติดตัวมาด้วย หรือจริงๆ แล้วพี่แกเป็น “โรคย้ำคิดย้ำทำ” กันแน่หนอ ???) ในที่สุดพี่ต้นหญ้าก็ตัดสินใจนำพวกเราเดินตามบั้นท้ายนักท่องเที่ยวกลุ่มๆ อื่นๆ เข้าไปยังพื้นที่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของตัวน้ำตกเจ็ดสี

น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
ชั้นน้ำตกเล็กๆ ระหว่างเส้นทางเดินเท้าเข้าสู่ "น้ำตกเจ็ดสี"



      บ่ายคล้อย........ดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนตัวลงต่ำ เงาจากยอดไม้ทอดยาวลงทาบบางส่วนของเส้นทางที่พวกเรากำลังก้าวเดิน เร่งให้พวกเราจำเป็นต้องรีบก้าวเท้ายาวและรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อไปให้ถึงตัวน้ำตกก่อนที่แสงจากดวงตะวันจะแปรเปลี่ยนมุมไปจนไม่เอื้ออำนวยให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม ระหว่างเส้นทางสู่น้ำตกเจ็ดสียังมีชั้นน้ำตกเล็กๆ ที่พวกเราไม่ทราบชื่ออีก 2 – 3 ชั้น แต่ด้วยเวลาอันจำกัดทำให้พวกเราไม่อาจแวะเวียน โอ้เอ้ เอ้อระเหยที่ไหนได้อีก 




น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
....................สายน้ำ กับ ดอกไม้....................


      เวลาประมาณ 16.05 น. ในที่สุดพวกเราก็เดินเท้าเข้ามาถึงตัวน้ำตกเจ็ดสี น้ำตกเจ็ดสีเป็นสายน้ำที่ไหลตกลงมาจากผาหินลาดเอียงกว้างหลายสิบเมตร สูงประมาณ 12 – 15 เมตร ยามสายน้ำไหลตกกระทบกับแผ่นหินเบื้องล่างจะเกิดเป็นละอองไอฟุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อแสงแดดสาดส่องมายังละอองไอน้ำดังกล่าวในบางมุมจะมีสายรุ้ง 7 สีปรากฏขึ้นให้เห็น กลายเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม)” ด้านหน้าตัวน้ำตกมีแอ่งน้ำตื้นๆ ซึ่งเด็กเล็กสามารถลงเล่นได้อย่างปลอดภัย น่าเสียดายที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเดินทางมาถึงตัวน้ำตกช้าเกินไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็นสายรุ้ง 7 สี แถมยังไม่มีเวลาเพียงพอที่จะลงเล่นน้ำอย่างสบายใจได้อีกด้วย (นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการเห็นสายรุ้ง 7 สี ต้องเดินเท้ามาให้ถึงตัวน้ำตกเจ็ดสีตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 14.00 น.ในวันฟ้าโปร่งครับ) .....เฮ้อ.....การท่องเที่ยวแบบเร่งๆ รีบๆ นี่ไม่ค่อยมีอะไรดีจริงๆ เลยนะเนี่ย


น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
...............ความอ่อนโยน.....ละมุนละไม.....ใกล้ๆ ตัว...............


      พวกเราใช้เวลาถ่ายภาพ นั่งเอาเท้าจุ่มน้ำคลายร้อนและพักผ่อนคลายอิริยาบถอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ก็รู้สึกตัวว่าถึงเวลาที่ต้องกลับไปยังรถคู่ใจแล้ว .....แสงอาทิตย์ที่เคยส่องสว่างกำลังอ่อนแรงลง นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มค่อยๆ ทยอยเดินเท้าออกจากตัวน้ำตกเจ็ดสี พวกเราเก็บสัมภาระ สวมรองเท้า สะพายเป้แล้วเริ่มออกเดินย้อนไปตามเส้นทางซึ่งนำพาพวกเรามา..... แม้ว่าการเยี่ยมเยือนน้ำตกเจ็ดสีในคราวนี้อาจจะไม่ได้สร้างความประทับใจใดๆ ให้แก่พวกเรามากมายนัก (เพราะไม่ได้เห็นสายรุ้งอ่ะ !!) แต่การได้เดินทางมายังสถานที่บางแห่งซึ่งไม่เคยได้มีโอกาสมาเยือนมาก่อนก็ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวอันล้ำค่าที่จะช่วยขยายมุมมองต่อสิ่งต่างๆ รอบกายและช่วยเติมแต่งส่วนเสี้ยวของประสบการณ์ชีวิตให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งต้องการจะเดินทางมาท่องเที่ยว ณ จังหวัดบึงกาฬ ลองใช้ประสบการณ์ของพวกเราเป็นตัวอย่างเพื่อออกแบบการเดินทางและกำหนดตารางเวลาการท่องเที่ยวที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มของคุณดูสิครับ



น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ
...............บรรยากาศของทุ่งนา ณ ช่วงเวลาอาทิตย์อัสดง...............
(ถ่ายภาพขณะขับรถกลับออกจาก "น้ำตกเจ็ดสี" มองเห็น "ภูทอก" อยู่ไกลลิบๆ)


      การเดินทางสู่น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) :
      รถยนต์ส่วนบุคคล จาก อ.เมือง จ.บึงกาฬ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 มุ่งหน้าไปทาง อ.บุ้งคล้า ก่อนถึงตัวอำเภอบุ้งคล้าประมาณ 12 กม.ให้เลี้ยวขวาที่แยกบ้านชัยพร ขับรถตรงไปผ่านโรงเรียนบ้านหนองยาว บ้านคำภู บ้านภูเงิน จนถึงโรงเรียนบ้านดอนเสียด ให้เลี้ยวซ้ายบริเวณแยกข้างโรงเรียนแล้วขับรถตรงต่อไปเรื่อยๆ ผ่านหน่วยพิทักษ์ป่าดอนเสียดไปประมาณ 2.5 กม.จะถึงลานจอดรถ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกประมาณ 1 – 2 กม.ก็จะถึงตัวน้ำตกเจ็ดสี หากเดินทางจาก “ภูทอก” ให้ใช้เส้นทางที่ผ่านบ้านนาต้อง บ้านดอนเสียด รวมระยะทางจาก “ภูทอก” ประมาณ 14 กม.
      รถประจำทาง ขึ้นรถสายหนองคาย – นครพนม แล้วลงรถบริเวณสี่แยก “บ้านชัยพร” จากนั้นให้เหมารถรับจ้างไปส่งยังน้ำตกเจ็ดสี (หารถรับจ้างได้ค่อนข้างลำบากและอาจไม่คุ้มค่าครับ)
      ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม : น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) มีความสวยงามและมีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน – ต้นฤดูหนาว ไม่แนะนำให้เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงอื่นๆ
      ขอขอบคุณ : ข้อมูลการเดินทางสู่น้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) อ.เซกา จ.บึงกาฬ จากหนังสือท่องเที่ยวทั่วไทยไปกับ “นายรอบรู้” ของสำนักพิมพ์สารคดี
      หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูลน้ำตกเจ็ดสี (น้ำตกกะอาม) เมื่อเดือน ต.ค. 2553 ข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ในปัจจุบัน

น้ำตกถ้ำพระ จังหวัดบึงกาฬ



สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางสู่จังหวัดบึงกาฬ…ที่มีชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พลาดไม่ได้เลยที่จะเดินทางสู่“น้ำตกถ้ำพระภูวัว หรือ น้ำตกถ้ำพระ” ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดมากนัก น้ำตกแห่งนี้อยู่ระหว่างรอยต่อของ อ.เซกา กับ อ.บึงโขงหลง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว…



สิ่งที่น่าสนใจเรียกได้ว่าเป็นโปรโมชั่นแถม เมื่อเดินทางมาเที่ยวชม คือ นอกจากจะได้ชมน้ำตกสวยๆ บริเวณลานกว้างแล้ว เรายังได้ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังคงอยู่ได้อย่างเต็มที่ตลอดการเดินทางประมาณ 1 กิโลเมตร (โดยใช้เรือขนาดใหญ่ของชาวบ้่านที่คอยให้บริการ 2 จุด สามารถเลือกได้ตามสะดวก)



ตั้งใจจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำตกแห่งนี้หลายครั้ง…แต่ไม่มีภาพสวยๆ มาประกอบสักที ค้นไปค้นมาเจอแหล่มๆ เลยนำมาฝากเพื่อนๆ ก่อนที่จะเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศจริงๆ ในช่วงเข้าพรรษาที่จะถึงนี้



จากแหล่งข้อมูลที่พอที่จะบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้เตรียมพร้อมในการเดินทางมาท่องเที่ยว คือ น้ำตกถ้ำพระแห่งนี้ จะมี 3 ชั้น จากการสอบถามพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมที่จะเล่นน้ำ ณ บริเวณชั้นที่ 2 เพราะจะมีลานกว้าง แมกไม้ ดอกไม้ป่านานาพันธุ์ผลิดอกออกช่ออย่างสวยสดงดงาม…
สำหรับการเดินทางก็ตรงดิ่ง สู่อำเภอเซกา มุ่งหน้าสู่น้ำตกถ้ำพระ ประมาณ 34 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางขอให้สนุกแบบเงียบๆ เพราะเป็นที่ตั้งสำนักสงฆ์ เมื่อเดินขึ้นมาบนลานหินด้านหลัง จะพบหุบเขารูปแอ่งกระทะขนาดกว้างประมาณ 200 ตารางเมตร มีสายธารน้ำตกไหลมายังก้นอ่างที่เบื้องล่าง บริเวณน้ำตกเป็นผากว้างราว 100 เมตร สูง 50 เมตร
หรือจะใช้เส้นทางจากจังหวัดบึงกาฬ สู่อำเภอบุ่งคล้า ตามทางหลวงหมายเลข 212 ก่อนจะถึงบ้านท่าดอกคำจะมีป้ายไม่ใหญ่มาก บอกว่า “น้ำตกถ้ำพระภูวัวให้เลี้ยวขวา” ตามป้ายนำทางมาเรื่อยๆ ไม่ไกลนัก

ปล. น้ำตกแห่งนี้มีน้ำเฉพาะในฤดูฝน แล้วพบกัน…..

ภาพ : http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=36239.0